สรุปบทที่ 4ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการและการตัดสินใจ
แนวคิดและองค์ประกอบ
ในส่วนแนวคิดและองค์ประกอบ ของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการตัดสินใจจะอธิบายแยกเป็น 2 หัวข้อ คือ แนวคิด และองค์ประกอบ โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.แนวคิด
ปัจจุบัน องค์การธุรกิจได้นำระบบสารสนเทศ มาใช้ร่วมกับเทคโนโลยี สารสนเทศที่มีประสิทธิภาพสูงและต้นทุนการใช้งานต่ำ เช่น คอมพิวเตอร์ และ เครือข่ายทางอินเทอร์เน็ตจึงก่อเกิดระบบสารสนเทศที่หลากหลายรูปแบบ
แต่อย่างไรก็ตาม องค์การยังตระหนักถึงการนำข้อมูลที่ได้รับจากระบบสารสนเทศมาใช้เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจของผู้จัดการและผู้บริหารให้ความถูกและแม่นยำขึ้นไม่ว่าจะมีการตัดสินใจด้านการบริหารทรัพยากรธุรกิจ การตลาด การเงินและการจัดการทั่วไปโดยสนองความต้องการข้อมูลเพื่อการตัดสินใจเพื่อมาใช้งานกับระบบการสนับสนุนการตัดสินใจ
2.องค์ประกอบ
2.1ฐานข้อมูล หมายถึง หน่วยเก็บและรวบรวมข้อมูลที่มีประโยชน์ซึ่งพร้อมสำหรับให้บริการเรียกใช้ข้อมูลได้ทุกเวลาที่ผู้ใช้ต้องการ
2.2การสื่อสาร หมายถึง เครื่องที่ด้านการสรรหาข้อมูลจากแหล่งของมูลต่างๆและส่งผ่านข้อมูลมาจัดเก็บในคอมพิวเตอร์ที่เป็นเป้าหมายเพื่อนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์
2.3เครือข่ายข้อมูล หมายถึง การเชื่อมโยงข้อมูลภายในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์โดยการเชื่อมโยงระบบประยุกต์และฐานข้อมูลเข้าด้วยกัน
2.4 การวิเคราะห์ข้อมูล หมายถึง กระบวนการที่ใช้วิเคราะห์และประมวนผลข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบของสารสนเทศที่สามารถนำไปใช้ตัดสินใจได้ทันที
2.5 การพัฒนากลยุทธ์ หมายถึง กระบวนการกำหนดกลยุทธ์ด้านระบบสารสนเทศที่ส้องคลองกับกลยุทธ์ธุรกิจ ตลอดจนสภาพแวดล้อมของธุรกิจซึ่งเป็นอยู่ในขณะนั้นตลอดจนการปรับปรุงแนวทางการวิเคราะห์ข้อมูลให้ทันสมัยตลอดเวลาด้วย
การจัดการ
1.แนวคิดและความหมาย
รอบบินร์และคูลเทอร์ (Robbins & Couiter ,2003 , หน้า 2 )ได้ให้คำนิยามไว้ว่า การจัดการ (Management) กระบวนประสานงาน เพื่อช่วยบรรลุวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ
(Effciency) และประสิทธิผล (Effective) โดยใช้หลักการวัดผล ดังนี้
ประสิทธิภาพ
ประสิทธิผล
สำหรับฟังก์ชันชันด้านการจัดการ สามารถจำแนกได้ 5 ประการ
1.การวางแผน
2.การจัดองค์การ
3.การจัดบุคคลเข้าทำงาน
4.การนำ
5.การควบคุม
2.ผู้จัดการและผู้บริหาร
2.1ผู้บริหารระดับสูง ผู้ที่ปฏิบัติงานอยู่ส่วนบนสุดของโครงสร้าง โดยรับผิดชอบด้านการจัดการเชิงกลยุทธ์ (Strategic Management)โดยจัดทำแผนระยะยาวที่กำหนดทิศทาง เป้าหมาย ทรัพยากรและนโยบายขององค์การ
2.2 ผู้จัดการระดับกลาง ผู้ที่ปฏิบัติงาน และรับผิดชอบสำหรับด้านการจัดการเชิงกลวิธี
(Tactical Management) โดยจัดทำระยะปานกลาง ที่สอดคล้องแผนกลยุทธ์และควบคุมการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามแผนนั้น
2.3 ผู้จัดการระดับล่าง ผู้ที่ปฏิบัติงาน และรับผิดชอบสำหรับด้านการจัดการเชิงปฏิบัติการ(Operational Management)โดยจะมีหน้าควบคุมดูแลการทำงานของบุคคลผู้ปฏิบัติงานในแต่ส่วนงานให้ไปตามเชิงกลวิธี โดยจัดทำแผนปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นแผนระยะสั้น แผนมักเน้นถึงการสร้างผลงานที่เป็นรูปธรรม
การตัดสินใจ
1.แนวคิดและความหมาย
การตัดสินใจ กระบวนการที่ใช้แก้ไขปัญหาที่เกิดจากการดำเนินการด้านต่างๆ ของธุรกิจ ตามลำขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 ระบุปัญหาที่ต้องการแก้ไข
ขั้นตอนที่ 2 เลือกวิธีการแก้ปัญหา
ขั้นตอนที่ 3 เก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อสร้างแบบจำลองการตัดสินใจ
ขั้นตอนที่ 4 ระบุทางที่ได้จากแบบจำลองการตัดสินใจ
ขั้นตอนที่ 5 ประเมินข้อดีและข้อเสียของแต่ละทางเลือก
ขั้นตอนที่ 6 เลือกและปฏิบัติตามแนวทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุด
2.แบบจำลองการตัดสินใจและการแก้ปัญหา
Stair and Reynolds (2006,p.455) ได้กล่าวถึง เฮอร์เบิร์ต ไซมอน (Herbert Simon) ว่าเป็นผู้พัฒนาแบบจำลองการตัดสินใจซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วไป โดยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน คือ ขั้นอัจฉริยะ ขั้น ออกแบบ และ ขั้นตัวเลือก
3.จำแนกประเภท
3.1การตัดสินใจแบบมีโครงสร้าง เป็นการตัดสินใจของปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำๆกันทุกวันลักษณะเป็นงานประจำ (Routine Work) สามารถเข้าใจได้ง่ายซึ่งมักนำมาใช้กับการทำงานของระดับล่างในองค์การ
3.2การตัดสินใจแบบกึ่งโครงสร้าง เป็นการตัดสินใจซึ่งเกี่ยวกับเรื่องที่มักใช้กฎเกณฑ์เพียงบางส่วนการตัดสินใจจึงต้องอาศัยวิจารณญาณเข้าช่วย ร่วมการใช้สารสนเทศช่วยตัดสินใจมักใช้กับการทำงานผู้จัดระดับกลางในองค์การ
3.3การตัดสินแบบไม่มีโครงสร้าง เป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่เคยเกิดบ่อยนัก ไม่เป็นงานประจำ ไม่มีกรอบการทำงาน และไม่สามารถสร้างแบบจำลองในการแก้ปัญหาแต่ใช้วิจารณญาณช่วยในการตัดสินใจ
4.รูปแบบการตัดสินใจ
4.1 ระดับบุคคล เป็นระดับการตัดสินใจ ในส่วนการใช้แบบแผนการรับรู้ (Cognitive Style) สามารถเลือกแนวทางปฏิบัติการประเมินค่าผลที่ตามได้ 2 รูปแบบ
รูปแบบที่ 1 การตัดสินใจอย่างเป็นระบบ (Systematic) การใช้วิธีศึกษาปัญหาอย่างระเบียนแบบแผน
รูปแบบที่ 2 การตัดสินใจโดยใช้สามัญสำนึก ( Intuitive Decision Making )การใช้วิธีหลายรูปแบบมาผสมผสานกัน
4.2ระดับองค์ เป็นระดับการตัดสินใจที่ถูกกระทำโดยกลุ่มบุคคลภายองค์การโดยให้ความสำคัญกับโครงสร้างและนโยบายเป็นสำคัญแบ่งรูปแบบการตัดสินใจในระดับเป็น 3 รูปแบบ
รูปแบบที่ 1 การตัดสินใจตามรูปแบบราชการ (Bureaucratic Model of Decision Making)
รูปแบบที่ 2 การตัดสินใจตามรูปแบบการปกครอง (Political Model of Decision
รูปแบบที่ 3 การตัดสินใจตามรูปแบบถังขยะ (Garbage can model)
กระบวนการทางธุรกิจของระบบสารสนเทศ
เริ่มตั้งแต่ระบบคอมพิวเตอร์ ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับระบบงานทั่วไปของธุรกิจ โดยมุ่งเป้าหมายด้านการลงทุน และการสร้างวิธีการทำงานประจำอย่างอัตโนมัติ Stair and Reynolds(2006, p. 25)ได้ให้คำจำกัดความไว้ว่า ระบบประมวลผลธุรกรรม หรือ ทีพีเอสคือชุดขององค์ประกอบต่างๆ เช่น บุคลากร กระบวนการ ซอฟต์แวร์ฐานข้อมูลและอุปกรณ์ซึ่งถูกรวบรวมไว้อย่างเป็นระบบเพื่อนำมาใช้บันทึกรายการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจอย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้น องค์การจำเป็นต้องทำการเชื่อมต่อระบบทีพีเอสกับระบบสารสนเทศอื่นๆ เช่น ระบบวางแผนทรัพยากรองค์กร ระบบจัดการโซ่อุปทานและระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบมากยิ่งขึ้น
2.ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
Laudon and Laudon (2005, p. 46)ได้ให้นิยามไว้ว่าระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการเอ็มไอเอส หมายถึง ระบบที่ใช้สนับสนุนการทำงานของผู้จัดการระดับล่าง และระดับกลางเพื่อเสนอรายงาน ข้อมูลทั่วไป ข้อมูลเฉพาะด้านและข้อมูลในอดีต มุ่งเน้นที่การตอบสนองความต้องการของบุคลากรภายในองค์การ มากกว่าความต้องการของหน่วยงานภายนอกการ
เอ็มไอเอส (MIS)เป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันแก่องค์กรธุรกิจสนับสนุนด้านสารสนเทศที่ถูกต้อง ต่อบุคคลที่ถูกต้อง ใช้รูปแบบการนำเสนอที่ถูกต้องและถูกเวลาโดยจุดมุ่งหมายของระบบ
3.ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ
3.1แนวคิดและความหมาย Stair and Reynoleds(2006, p. 27)ได้ให้นิยามไว้ว่า ระบบสนับสนุนการตัดสินใจหรือดีเอสเอส คือ ระบบที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้สนับสนุนการตัดสินใจสำหรับการแก้ปัญหาเฉพาะเรื่องโดยจุดมุ่งหมายก็คือ การตัดสินใจอย่างประสิทธิผล โดย เอ็มไอเอสจะให้การสนับสนุนองค์การทำสิ่งต่างๆ ให้ถูกต้อง (Do Thing Right) แต่ดีเอสเอสต จะช่วยผู้จัดการเลือกที่ถูกต้อง (Do The Right Thing) จากตัวอย่างของร้านหนังสือออกซ์ฟอร์ด ซึ่งต้องอยู่ที่กรุงกัลกัตตา ใช้ระบบสนับสนุนการตัดสินใจทางอินเทอร์เน็ต เพื่อยินยอมผู้รักการอ่านหนังสือในประเทศอินเดียเลือกหนังสือที่ตนชอบ ณ ร้านค้าปลีก หรือซื้อผ่านเว็บไซต์อินเทอร์เน็ตซึ่งเว็บไซต์นี้จะบรรจุสารสนเทศที่ทรงคุณค่าการตัดสินใจเลือกซื้อหนังที่ดีขึ้นของลูกค้า
เหตุผลของการใช้ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ มีหลายประการ ดังนี้
1.ผู้บริหารเกิดความต้องการสารสนเทศใหม่ๆ
2.การดำเนินธุรกิจ ภายใต้สภาวการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่มีเสถียรภาพ
3.หน่วยงานระบบสารสนเทศ ไม่ค่อยรับรู้ถึงความติองการที่หลากหลายของบริษัทหรือแม้แต่ความต้องการสอบถามข้อมูลในทันทีของผู้บริหาร
4.เกิดจากความเคลื่อนไหวของคอมพิวเตอร์ด้านผู้ใช้ขั้นปลาย (End-User Computing)
3.สมรรถภาพของระบบ Turban et al. (2006,p.466) ได้ระบุถึงสมรรถภาพโดยรวมของระบบ
1.สามารถใช้ดีเอสเอสได้ในทุกระดับชั้นของผู้บริหารไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจรายบุคคลหรือรายกลุ่มก็ตาม
2.สามารถใช้ดีเอสเอส ทั้งในส่วนการตัดสินใจเชิงความสัมพันธ์และเชิงลำดับขั้น
3.สามารถใช้ดีเอสเอสทุกๆ ระยะกระบวนการตัดสินใจ
4.ผู้ใช้สามารถปรับระบบให้เหมาะสมกับการใช้ภายใต้และสภาพการณ์ที่เปลี่ยนในช่วงขณะนั้น
5. ระบบที่ใช้มักง่ายต่อการสร้าง และสามารถใช้สำหรับหลายกรณี
6.ระบบที่ใช้จะช่วยสนับสนุนการเรียนรู้เพิ่มเติมในอนาคต
7.ระบบที่ช่วยประกอบตนแบบเชิงปริมาณ ที่เป็นประโยชน์ต่อการวิเคราะห์ข้อมูล
8.ระบบดีเอสเอสชั้นสูง มักจะถูกใช้เป็นเครื่องมือ ภายใต้การจัดการความรู้ โดยการสนับสนุนการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนมากๆ
9.ระบบอาจถูกแพร่กระจ่ายการใช้งานผ่านเว็บ
10.ระบบอาจถูกใช้การสนับสนุนการปฏิบัติการ ด้านการวิเคราะห์ความไว วึ่งการใช้ตัวแบบทางคณิตสาสตร์และตัวแบบอื่นๆ
3.3ลักษณะเฉพาะของระบบ หลักเกณฑ์พิเศษ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของดีเอสเอสมี 3 ข้อ คือ 1.การวิเคราะห์ความไว (Sensitivity Analysis) การวิเคราะห์เพื่อค้นหาเป้าหมาย(Goal Seeking) และการจำลอง (Simulation)
3.4 โครงสร้างและส่วนประกอบของระบบ Turban et al. (2006,p.466) ได้ระบุไว้ว่า ส่วนประกอบของดีเอสเอสอย่างน้อยที่สุด ควรจะต้องประกอบด้วย ระบบจัดการข้อมูล (Data management System)ระบบจัดการตัวแบบ (Model Management System)ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ (User Interface ) และผู้ใช้ขั้นปลาย (End User) ในส่วนดีเอสเอสชั้นสูงจะประกอบด้วยระบบจัดการความรู้(Knowledge Management System)
4.ระบบสนับสนุนผู้บริหาร
4.1วิสัยทัศน์ จากที่กล่าวแล้วว่า อีเอสเอส คือ รูปแบบพิเศษของระบบที่ใช้เพื่อสนับสนุนการตัดสินเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารระดับสูง ซึ่งความแตกต่างจากดีเอสเอสในด้านการใช้งานดีเอสเอสมักถูกใช้เพื่อสนับสนุนการจำลองที่หลากหลายรูปแบบตลอดจนการใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์ปัญหาด้านต่างๆ
4.2 คุณลักษณะ อีเอสเอสประกอบคุณลักษณะทั่วไป ดังนี้
1.เป็นระบบเชิงโต้ตอบที่ถูกสั่งโดยผู้บริหารบุคคล
2.เป็นระบบที่ไม่ซับซ้อน ง่ายต่อการเรียนรู้และใช้งาน
3.เป็นระบบที่มีความสามารถเจาะลึกในรายละเอียดของแหล่งข้อมูล
4.เป็นระบบที่สนับสนุนความต้องการข้อมูลภายนอกองค์กร มีคุณค่าต่อการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์
5.เป็นระบบการสนับสนุนการตัดสินใจภายใต้สภาวการณ์ที่ไม่แน่นอน และยังเป็นมือช่วยวัดความเสี่ยงสำหรับการตัดสินใจด้วย
6.เป็นระบบที่ใช้กำหนดทิศทางในอนาคตขององกร และผลลัพธ์ของการหนึ่ง
7.เป็นระบบที่ถูกเชื่อมโยงด้วยข้อมูลเพิ่มของกระบวนการทางธุรกิจ
4.3 สมรรถภาพของระบบ
4.3.1การสนับสนุนด้านการกำหนดวิสัยทัศน์ขององค์การกำหนดวิสัยทัศน์ของการ
4.3.2การสนับสนุนด้านการวางแผนกลยุทธ์
4.3.3การสนับสนุนด้านการจัดการองค์การและการจัดคนเข้าทำงาน
4.3.4การสนับสนุนด้านการควบคุมกลยุทธ์
4.3.5การสนับสนุนด้านการจัดการเชิงวิกฤต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น